จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2560

จิตรกรรมขอเล่าเรื่อง..









-- ประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดีในเอเชียอาคเนย์ V --
.. จิตรกรรมผนังเล่าเรื่อง ..

โดย .. นางสาวมยุรินทร์  กุลวงศ์ ..









จิตรกรรม (Painting) หมายถึง ผลงานศิลปะที่แสดงออกด้วยการขีดเขียน การวาด และระบายสี เพื่อให้เกิดภาพ เป็นงานศิลปะที่มี 2 มิติ เป็นรูปแบบไม่มีความลึกหรือนูนหนา แต่สามารถเขียนลวงตาให้เห็นว่ามีความลึกหรือนูนได้ ความงามของจิตรกรรมเกิดจากการใช้สีในลักษณะต่าง ๆ กัน










จิตรกรรมวัดป่าฮวก
ที่มา : http://www.sac.or.th/

  

จิตรกรรมวัดป่าฮวก

        จิตรกรรมวัดป่าฮวกศิลปะหลวงพระบางช่วงพุทธศตวรรษที่ 24-25 เป็นระยะที่ได้รับอิทธิพลรัตนโกสินทร์อย่างมาก แต่ต้องไม่ลืมว่า การที่เจ้านายบางพระองค์ในราชวงศ์หลวงพระบางได้เคยเสด็จมาประทับ ณ กรุงเทพจึงอาจทำให้อิทธิพลรัตนโกสินทร์ปรากฏบทบาทอย่างมากในแถบนี้ก็ได้           ด้านหลังพระพุทธรูปประธานของวัดป่ารวกเขียนเป็นภาพธรรมชาติ เช่นภูเขา โขดหินและสัตว์ป่า ประหนึ่งว่าพระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ภายในป่าหิมพานต์ ด้านบนปรากฏอาคารซึ่งพระพุทธเจ้าแวดล้อมด้วยพระสาวกกำลังนั่งฟังธรรมอยู่








 จิตรกรรมวัดป่าฮวก
ที่มา : http://www.sac.or.th/

จิตรกรรมวัดป่าฮวก


        ภาพเล่าเรื่องนี้เป็นภาพตอนพระเจ้าชมพูบดีกำลังเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าผู้ที่ แปลงตนเองเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ โปรดสังเกตว่าพระเจ้าชมพูบดีกำลังตกตะลึงกับความงดงามของเมืองและปราสาทราช วังของพระพุทธเจ้า การเขียนภาพชมพูบดีที่วัดป่าฮวกใกล้กับพระราชวังหลวงพระบาง อาจเกี่ยวข้องกับการยกสถานะเจ้ามหาชีวิตแห่งหลงพระบางให้เทียบเท่ากับพระจักรพรรดิก็ได้

       แม้ว่ารูปแบบของจิตรกรรมที่นี่แสดงความพยายามในการเลียนแบบศิลปะรัตนโกสินทร์อย่างมาก เช่น การวาดภาพปราสาทและเครื่องแต่งกายบุคคลเป็นต้น แต่การใช้สีของจิตรกรรมที่นี่กลับแปลกออกไปกว่าศิลปะรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะการเน้นสีส้ม








 จิตรกรรมวัดป่าฮวก
ที่มา : http://www.sac.or.th/

 

จิตรกรรมวัดป่าฮวก


       จิตรกรรมที่นี่มีความพิเศษอย่างมากเนื่องจากมีการวาดภาพ คนจีน แทรกลงไปในจิตรกรรมไทยประเพณี ซึ่งลักษณะเช่นนี้แตกต่างไปจากจิตรกรรมที่กรุงเทพ คนจีนเหล่านี้มีทั้งบุรุษและสตรี โดยการแต่งตัวแสดงให้เห็นเอกลักษณ์ชนชาติอย่างชัดเจน อนึ่ง ต้องไม่ลืมว่าในสมัยรัชกาลที่ 3 มีการติดต่ออย่างมากระหว่างจีนกับรัตนโกสินทร์ ซึงอิทธิพลดังกล่าวอาจเลยมาถึงหลวงพระบางเช่นกัน








 จิตรกรรม เรื่อง ออกมหาอภิเนากรมณ์และมารวิชัย
                                                                                                                          ที่มา : http://www.sac.or.th/

 

จิตรกรรมเรื่องออกมหาภิเนษกรมณ์และมารวิชัย


          จิตรกรรมนี้เป็นภาพตอนออกมหาภิเนษกรมณ์ โดยเป็นภาพเจ้าชายสิทธัตถะกำลังขี่ม้ากัณฐกะเหาะอยู่ด้านบนท้องฟ้า ส่วนด้านล่างเป็นรูปมารวิชัยโดยพระแม่ธรณีกำลังบีบมวยผมเพื่อให้น้ำท่วมกอง ทัพมาร การเขียนแบบทัศนียวิทยาแบบตะวันตกทำให้น้ำท่วมประหนึ่งว่าเป็นภาพที่มองลงมาจากด้านบน (Bird Eye View)

          อิทธิพลรัตนโกสินทร์ที่ปรากฏในภาพเขียน เช่น การวาดภาพปราสาทราชวังและตัวละคร รวมถึงการวาดท้องฟ้าสีฟ้าและทัศนียวิทยาตามแบบความเป็นจริงซึ่งแสดงให้เห็นการเข้ามาของอิทธิพลตะวันตก จิตรกรรมนี้จึงอาจเกี่ยวข้องกับศิลปะรัตนโกสินทร์ในสมัย รัชกาลที่ 4-5

 

 

 

 

 

 
 
จิตรกรรมบนหน้าบัน สิมวัดหาดเสี้ยว 
                                                                                                                             ที่มา : http://www.sac.or.th/

 

จิตรกรรมบนหน้าบัน สิมวัดหาดเสี้ยว


         จิตรกรรมนี้เป็นภาพพุทธประวัติตอนตอนก่อนและหลังตรัสรู้ เช่น ตอนตัดพระเกศาที่แม่น้ำอโนมานที ตอนพระอินทร์ดีดพิณสามสาย ตอนมารวิชัย ตอนสัตตมหาสถานเป็นต้น

         เป็นที่น่าสังเกตว่าเนื่องจากช่างต้องการเน้นย้ำตอนมารวิชัยให้เป้นตอนที่สำคัญที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงใช้ตอนมารวิชัยวางไว้ด้านบนสุด ส่วนตอนอื่นๆ คือ ตอนตัดพระเกศาและตอนสัตตมหาสถานกลับแบ่งกันด้านล่างของหน้าบัน

         อิทธิพลรัตนโกสินทร์ที่ปรากฏในภาพเขียน เช่น การวาดท้องฟ้าสีฟ้าและทัศนียวิทยาตามแบบความเป็นจริงซึ่งแสดงให้เห็นการเข้า มาของอิทธิพลตะวันตก จิตรกรมนี้จึงอาจเกี่ยวข้องกับศิลปะรัตนโกสินทร์ในสมัย รัชกาลที่ 4-5








 จิตรกรรมเรื่องพระเตมีย์
ที่มา : http://www.sac.or.th/

 

จิตรกรรมเรื่องพระเตมีย์


         จิตรกรรมนี้เป็นภาพพระเตมีย์อันเป็นพระชาติแรกในทศชาติชาดก ตรงกลางเป็นภาพปราสาทขนาดใหญ่มีภาพพระเตมีย์นั่งบนพระเพลาของพระราชบิดาที่กำลังตัดสินความ ถัดจากภาพเป็นภาพพระเตมีย์แสร้างบ้าใบ้จนพระเทวีกรรแสง ด้านบนเป็นภาพพระเตมีย์ยกรถและคนที่กำลังขุดหลุมเพื่อฝังพระเตมีย์ทั้งเป็น

       








 ทวารบาลแบบจีน สิมวัดล่องคูณ
                                                                                                                          ที่มา : http://www.sac.or.th/

 

ทวารบาลแบบจีน สิมวัดล่องคูณ


         ทวารบาลแบบจีนนี้ แต่งตัวด้วยชุดเกราะตามแบบนักรบ (บุ๋น) และถืออาวุธตามแบบจีนซี่งเป็นลักษณะปกติของทวารบาลจีน รวมถึงทวารบาลแบบจีนประยุกต์ในศิลปะไทย (เสี้ยวกาง)

         เนื่องจากศิลปะหลวงพระบางช่วงพุทธศตวรรษที่ 24 เป็นระยะที่ได้รับอิทธิพลรัตนโกสินทร์อย่างมาก ทำให้รูปทวารบาลแบบจีนตามพระราชนิยมในรัชกาลที่สามได้เข้ามาปรากฏในแถบนี้ บางวัด เช่น วัดล่องคูณเมืองหลวงพระบางเป็นต้น แต่อย่างไรต้องไม่ลืมว่า การที่เจ้านายบางพระองค์ในราชวงศ์หลวงพระบางได้เคยเสด็จมาประทับ ณ กรุงเทพจึงอาจทำให้อิทธิพลรัตนโกสินทร์ปรากฏบทบาทอย่างมากในแถบนี้ก็ได้








 ทวารบาล ลายประคำประดับผนังด้านในสิมวัดเชียงทอง
                                                                                                                          ที่มา : http://www.sac.or.th/

 

ทวารบาล ลายคำประดับผนังด้านในสิมวัดเชียงทอง


         แม้ว่าวัดเชียงทองอาจสร้างขึ้นมาตั้งแต่รัชกาลพระเจ้าไชยเชษฐาในพุทธศตวรรษ ที่ 21-22 แต่สิมวัดเชียงทองน่าจะมีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 23-24 ส่วนการตกแต่งด้วยลายคำและการประดับกระจกนั้นน่าจะมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 25

         ในศิลปะล้านช้างสกุลช่างหลวงพระบาทราวพุทธศตวรรษที่ 25 การตกแต่งลายคำได้รับความนิยมอย่างมาก โดยส่วนมากมักประดับภายในอาคาร โดยผนังด้านหน้าวัดเชียงทอง มีการประดับภาพเหล่าเทวดากำลังบูชาพระเจดีย์จุฬามณีอันงดงามมาก บริเวณผนังที่ขนาบทางเข้ายังปรากฏภาพ ทวารบาลหรือเทวดาผู้รักษาประตูขนาดใหญ่ เทวดาเหล่านี้มักถือดอกโบตั๋นอันสื่อความหมายถึง การบูชาพระพุทธเจ้า ผู้ประทับภายในอาคารนั้น ดอกโบตั๋นเป็นดอกไม้ในศิลปะจีนที่เข้ามามีบทบาททั้งในศิลปะล้านช้างและล้านนา









 ทวารบาล ลายคำประดับผนังด้านในสิมวัดเชียงทอง
                                                                                                                          ที่มา : http://www.sac.or.th/

 

ทวารบาล ลายคำประดับผนังด้านในสิมวัดเชียงทอง


         ในศิลปะล้านช้างสกุลช่างหลวงพระบาทราวพุทธศตวรรษที่ 25 การตกแต่งลายคำได้รับความนิยมอย่างมาก โดยส่วนมากมักประดับภายในอาคาร โดยผนังด้านหน้าวัดเชียงทอง มีการประดับภาพเหล่าเทวดากำลังบูชาพระเจดีย์จุฬามณีอันงดงามมาก บริเวณผนังที่ขนาบทางเข้ายังปรากฏภาพ ทวารบาลหรือเทวดาผู้รักษาประตูขนาดใหญ่ เทวดาเหล่านี้มักถือดอกโบตั๋นอันสื่อความหมายถึง การบูชาพระพุทธเจ้าผู้ประทับภายในอาคารนั้น ดอกโบตั๋นเป็นดอกไม้ในศิลปะจีนที่เข้ามามีบทบาท ทั้งในศิลปะล้านช้างและล้านนา




































































ที่มา : http://www.sac.or.th/

     : https://www.baanjomyut.com/


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จิตรกรรมขอเล่าเรื่อง..

-- ประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดีในเอเชียอาคเนย์ V -- .. จิตรกรรมผนังเล่าเรื่อง .. โดย .. นางสาวมยุรินทร์  กุลวงศ์ .. ...